เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2567 เวลา 10.00 น. ด้วยนางสาวปภาวี เดชเดโช ได้เดินทางมาแจ้งความว่า เมื่อวันที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๗ เวลา ๐๙.๔๑ น. ได้มีโทรศัพท์ 06๒- ๘๙๘๓๙๓๑ โทรมาหา ผู้เสียหาย อ้างว่าเป็น เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สายไหม ชื่อ ร.ต.ท.อดิศักดิ์ ศรบัว สอบถามว่าได้เปิดบัญชีธนาคารกรุงไทย ให้ผู้ต้องหาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้หรือไม่ เมื่อผู้เสียหายปฏิเสธว่าไม่ได้เปิดบัญชีแต่อย่างใด บุคคลดังกล่าวที่โทรมา แจ้งว่า เพื่อเป็นการยืนยันความบริสุทธิ์ ให้ติดต่อทางบัญชีไลน์ชื่อ กรมสอบสวนคดีพิเศษ และผู้ใช้บัญชีไลน์ ดังกล่าว แจ้งให้ส่งภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชน ทางข้อความไลน์แล้วสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับเงินในบัญชีแล้วบอกว่า เพื่อเป็นการแสดง ความบริสุทธิ์ ต้องให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ โดยโอนเงินไปตรวจสอบ จึงได้โอนเงินไปยังธนาคารไทยพาณิชย์ จำนวน ๕๓,๙๗๗ บาท จากนั้นผู้ใช้บัญชีไลน์ดังกล่าวบอกว่า เพื่อเป็นการยืนยันว่าผู้กล่าวหาเป็นบุคคลมีฐานะ ไม่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินให้โอนเงินอีก ๒๐๐,๐๐๐ บาท ซึ่งผู้เสียหายได้โอนเงินไปยังบัญชีธนาคารกรุงเทพ จำนวน ๒ ครั้ง ครั้งละ 1๐๐,๐๐๐ บาท แล้วหลังจากนั้นผู้ใช้บัญชีไลน์ ดังกล่าว บอกให้ผู้กล่าวหากลับมาบ้านพักเพื่อหาเงินโอนไปอีก ต่อมาผู้แจ้งได้โอนเงินของยาย มายังบัญชีของตนเอง แล้วโอนไปยังบัญชีคนร้ายทางบัญชีธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำนวน ๓๙๓,๔๖๐ บาท รวมเป็นเงินจำนวน 647,347 บาท ( โดยได้โอนที่ ห้างสรรพสินค้าสามย่าน กรุงเทพมหานคร และโอนที่บ้านพักในเขตอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช) เมื่อผู้แจ้งทราบว่าเป็นคนร้าย จึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากคดีดังกล่าว พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช และพ.ต.อ.สุทัศน์ สงสยม รอง ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ได้เดินทางมาเร่งรัดติดตามความคืบหน้าและได้ประชุมกำชับการทำคดีให้ดำเนินการรวบรวมพยาน วัตถุ และอื่นๆอย่างละเอียดรอบคอบ ครบถ้วนเร่งรัดออกหมายจับ และจับกุมผู้ต้องหาโดยเร่งด่วน
หลังจากได้รวบรวมพยานหลักฐานครบถ้วนสมบูรณ์จึงได้ให้พนักงานสอบสวนไปยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอศาลอนุมัติออกหมายจับบัญชีม้าจำนวน 3 ราย และศาลได้อนุมัติหมายจับเป็นที่เรียบร้อยและ จะได้เร่งรัดจับกลุ่มผู้ต้องหาต่อไป


